ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือลงทุนตู้กดกาแฟหยอดเหรียญดีกว่า

Last updated: 12 เม.ย 2565  |  1637 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือลงทุนตู้กดกาแฟหยอดเหรียญดีกว่า

ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือลงทุนตู้กดกาแฟหยอดเหรียญดีกว่า

แฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ ลงทุนที่น้อยกว่า เห็นผลตอบแทนได้ในระยะเวลาสั้น


ทุกวันนี้หลาย ๆ คนต่างต้องการเพิ่มรายได้ให้มากกว่า 1 ช่องทางด้วยวิธีการต่าง ๆ ซึ่งก็มีตัวเลือกมากมายในการให้เงินทำงาน ทั้งการลงทุนเปิดธุรกิจ หุ้นกิจการ ฯลฯ แต่ทางเลือกหนึ่งในการลงทุนที่สามารถทำช่วยให้ทำเกิดผลกำไรอย่างงามมาอย่างยาวนานก็คือ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ แต่แน่นอนว่าการที่ได้รับผลตอบแทนสูงก็ย่อมมาจากการลงทุนที่สูงเช่นกัน แต่หากต้องการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ในระยะเวลาที่สั้นและง่ายกว่า การทำธุรกิจแฟรนไชส์ ก็เป็นวิธีที่ใช้เงินทุนในหลายระดับตามความพร้อม และสามารถเริ่มได้ง่ายและสร้างรายได้ในเวลาที่เร็วกว่า โดย แฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ ที่เป็นตู้กดกาแฟอัตโนมัติ พร้อมบริการ 24 ชั่วโมง ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาช่องทางสร้างรายได้ในปัจจุบัน เพราะกาแฟเป็นหนึ่งในเมนูประจำวันของหลาย ๆ คน และยังเป็นที่นิยมดื่มกันในทุกพื้นที่ ทุกภาคทั่วประเทศ ซึ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และลงทุนกับแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ จะสร้างรายได้อย่างคุ้มค่าได้เหมือนกันหรือต่างกันแค่ไหน การลงทุนแบบใดที่จะตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากกว่ากัน ไปติดตามและทำความเข้าใจกันในบทความนี้ได้เลย

 

รู้จักประเภทของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์


การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ Real Estate คือ การลงทุนไปกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ บ้าน อาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ฯลฯ ซึ่งใช้เม็ดเงินในการลงทุนได้ตั้งแต่ระดับน้อยไปจนถึงจำนวนที่มาก ซึ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็มีหลายวิธีที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ลงทุน ตัวอย่างเช่น

 

  1. การลงทุนเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ด้วยใบจอง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมหรือห้องชุดที่เปิดขายใหม่ ซึ่งมักจะให้สิทธิ์ในการจองสำหรับผู้ที่สนใจด้วยการจ่ายเงินจองหลักหมื่นถึงหลักแสน และผู้ที่ลงทุนส่วนใหญ่ก็จะใช้สิทธิ์จอง จากนั้นก็จะขายใบจองยกสิทธิ์ให้กับผู้ที่ต้องการซื้อห้องชุด โดยผู้ลงทุนก็จะได้กำไรจากส่วนต่างที่บวกเพิ่มเข้าไปนั่นเอง แต่เป็นวิธีที่ต้องอาศัยข้อมูลและความชำนาญในการเก็งกำไรในหลายด้าน เช่น การเลือกทำเลของอสังหาฯ ชื่อเสียงความนิยมของโครงการ ตลอดจนช่วงเวลาในการทำราคา ฯลฯ ซึ่งล้วนมีผลต่อการเก็งกำไรด้วยใบจองทั้งสิ้น

  2. การลงทุนอสังหาริมทรัพย์แบบปล่อยเช่า สำหรับนักลงทุนที่มีเงินสำรองหรือที่เรียกว่าเงินเย็นอยู่สักก้อน สามารถที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโดฯ ทาวน์โฮม หรือแม้กระทั่งที่ดินเปล่า แล้วนำมาให้ผู้อื่นเช่าเป็นรายเดือนเพื่อสร้างรายได้ได้ หรือหากอสังหาฯ นั้น ๆ อยู่ในทำเลที่ตั้งที่ดี เช่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือมีส่วนเชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่สะดวก เป็นต้น ก็สามารถเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก และปล่อยเช่าเป็นรายวัน ในลักษณะของ Hostel ให้กับผู้ที่เดินทางหรือนักท่องเที่ยวได้เช่า ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ก็เป็นช่องทางสร้างรายได้ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเช่นกัน

  3. การลงทุนปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายต่อ เป็นอีกวิธีที่ต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ด้วยการซื้อบ้าน ตึก หรือห้องชุด ทั้งที่ประกาศขายใหม่หรือถูกขายทอดตลาดมือสอง นำมารีโนเวต ปรับปรุงซ่อมแซม และตกแต่งใหม่ให้สวยงามเพื่อขายในราคาที่สูงมากขึ้นได้และทำกำไรได้

  4. การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ สำหรับวิธีนี้จัดว่ามีความง่ายและใช้เงินลงทุนค่อนข้างต่ำ เริ่มต้นได้ตั้งแต่หลักพันบาท โดยผลตอบแทนที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ 6%-10% ซึ่งอาจจะไม่สูงมากและได้รับไม่รวดเร็วเท่าการลงทุนอสังหาฯ รูปแบบอื่น ๆ ข้างต้น แต่ก็ถือว่ามีความเสี่ยงในการลงทุนที่ค่อนข้างต่ำ และก็ได้รับผลตอบแทนที่มีความสม่ำเสมอในระยะยาว เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่สนใจได้ลองเริ่มต้นเก็งกำไรจากอสังหาฯ

  5. การลงทุนเป็นนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ สำหรับผู้ที่มีความรอบรู้ในเรื่องอสังหาฯ ทำเลที่ตั้ง พร้อมด้วยทักษะการเจรจา ก็สามารถเป็นคนกลางระหว่างผู้ขายและผู้ซื้ออสังหาฯ ได้ โดยรายได้จะอยู่ที่ประมาณ 2-4% ของราคาขายหรือเงื่อนไขอื่น ๆ ตามสัญญา จะเห็นได้ว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่หากต้องการได้ผลตอบแทนจำนวนมากในเวลาอันสั้น จำเป็นต้องใช้เงินในการลงทุนค่อนข้างสูง ส่วนการลงทุนที่ใช้งบประมาณต่ำ ก็ต้องใช้เวลารอคอยกว่าผลตอบแทนและกำไรจะงอกดอกออกผลมา แต่ก็พ่วงมาด้วยความเสี่ยงเช่นกัน ที่สำคัญ ผู้ที่จะลงทุนอสังหาฯ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ต้องศึกษาข้อมูลด้านต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ทำเลที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์ คุณภาพของสิ่งปลูกสร้างในโครงการที่เลือก ตลอดจนข้อมูลของคู่แข่งขันในตลาดอสังหาฯ หรือโครงการอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียง เป็นต้น เพราะล้วนมีผลกระทบต่อมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น


รู้จักกับการลงทุนแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ


การทำธุรกิจแฟรนไชส์ในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกหลากหลายประเภท หลากหลายระดับราคา ที่เราคุ้นเคยกันดีก็มีทั้งแฟรนไชน์ที่เป็นหน้าร้านขายสินค้า อาหาร เครื่องดื่มที่นั่งทานในร้านได้ หรือหากลดไซส์ลงมาก็จะเป็นบูทหรือแผงขายเล็ก ๆ ซึ่งนับว่าลงทุนได้ง่ายและขายได้อย่างสะดวก แต่จากการเกิดขึ้นของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลอย่างยิ่งต่อรูปแบบการจำหน่าย เพราะลูกค้าไม่สามารถนั่งทานหรือใช้บริการในร้านได้ และแม้ว่าจะมีการผ่อนคลายในหลาย ๆ มาตรการ แต่อาจก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือโอกาสในการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นได้ ตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไป ทั้งเทรนด์ความชอบในการบริโภคสิ่งต่าง ๆ ที่มีคุณภาพดีและรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจต้องเตรียมตัวตั้งรับและปรับตัวอยู่เสมอ ซึ่งอีกหนึ่งโอกาสที่จะสร้างรายได้ให้กับผู้ที่สนใจทำธุรกิจแฟรนไชส์ในยุคปัจจุบัน นั่นก็คือ แฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ ภายใต้แบรนด์ 24 hrs Coffee Plus เป็นวิธีการลงทุนที่เรียกได้ว่าเสือนอนกินอีกวิธีหนึ่ง เพราะสามารถก่อให้เกิดรายได้ที่เข้ามาตลอดเวลา โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องคอยเวลามาเปิดร้าน หรือรอออเดอร์ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์เหมือนการเปิดคาเฟ่หรือร้านกาแฟทั่วไป ตลอดจนสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทุกพื้นที่ เพราะกาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่คนมักจะดื่มกันเป็นประจำในทุก ๆ วันอยู่แล้ว สำหรับช่องทางและโอกาสในด้านการลงทุนติดตั้งตู้กดกาแฟ จาก แฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ 24 Coffee Plus น้้น มีข้อได้เปรียบมากมายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

 

  1. แฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญใช้ต้นทุนไม่สูงมาก สร้างกำไรที่คุ้มค่า ด้วยการลงทุนแพ็กเกจตู้กดกาแฟเพื่อรับเครื่องไปติดตั้ง เริ่มต้นที่ประมาณ 57,600 บาท จากนั้นก็จะมีในส่วนของวัตถุดิบที่ต้องเติม เช่น ผงกาแฟ น้ำ และแก้ว ซึ่งมีต้นทุนประมาณ 5 บาทต่อการขายกาแฟ 1 แก้ว โดยกาแฟที่ขายจากตู้กดกาแฟจะอยู่ที่ราคาแก้วละ 10 บาท ผู้ขายจึงได้กำไรต่อแก้วถึง 50% นอกจากนี้ ตู้กดกาแฟก็มีขนาดเล็ก และใช้ไฟฟ้าประมาณ 8 บาทต่อวันเท่านั้น และยิ่งถ้าตู้กดกาแฟนั้นตั้งอยู่ในทำเลที่มีผู้คนเข้าถึงได้ง่าย ก็จะยิ่งทำให้คืนทุนไวและสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องแน่นอน

  2. ตู้กดกาแฟใช้พื้นที้และแรงงานน้อย ด้วยขนาดเครื่องที่ไม่ใหญ่ ทำให้เคลื่อนย้ายสะดวก จึงสามารถวางตู้กดกาแฟได้ตามสถานที่ทั่วไปที่มีผู้คนเดินสัญจรผ่าน โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านหรือซื้ออุปกรณ์ตกแต่งร้านเพิ่มเติม และด้วยระบบการทำงานชงกาแฟอัตโนมัติ เจ้าของตู้เพียงแค่ทำการเติมอุปกรณ์และวัตถุดิบซึ่งระบบจะมีการแจ้งเตือนสม่ำเสมอ ทำให้ไม่ต้องจ้างคนชงกาแฟ พนักงานขาย หรือคนดูแล และยังปลอดภัย เพราะตู้กดกาแฟมีระบบตัดไฟอัตโนมัติในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินได้ และมั่นใจในการใช้งาน ด้วยการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน พร้อมเปลี่ยนอะไหล่ฟรี และเปลี่ยนเครื่องฟรีทุก 3 ปี อีกทั้งยังมีประกันภัยคุ้มครองความเสียหายในกรณีต่าง ๆ ฟรีอีกด้วย

  3. เครื่องดื่มรสชาติหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัย แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นตู้กดกาแฟอัตโนมัติ แต่ก็มีทั้งกาแฟและเครื่องดื่มให้เลือกหลายชนิดที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค เช่น กาแฟเอสเพรสโซ่ กาแฟคาปูชิโน่ โกโก้ ชาไทย ชาเขียว นมสด ฯลฯ ให้เลือกดื่มได้ตามความชอบในทุกช่วงเวลาที่ต้องการ มีรสชาติที่อร่อยเข้มข้น กลมกล่อม และยังปลอดภัย เพราะไม่มีการใช้ไขมันทรานส์เป็นส่วนผสม และยังมีเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมทันสมัย ตอบโจทย์ตามความต้องการของตลาดพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งด้วย

  4. แฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญสามารถต่อยอดได้ นอกจากจะเป็นตู้กดกาแฟที่ขายเป็นแก้วให้แก่ลูกค้าแล้ว เจ้าของตู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ยังสามารถทำกาแฟและเครื่องดื่มแบบใส่ขวดแช่เย็นส่งขายเพิ่มเติมได้ด้วย และหากมีการขายแฟรนไชส์เพิ่มเติมได้ ก็จะมีส่วนแบ่งค่าการตลาด และเงินปันผลค่าผงกาแฟที่จำหน่าย่ในทุกตู้สาขาแฟรนไชส์ด้วย

    และหากเปรียบเทียบการลงทุนระหว่างอสังหาริมทรัพย์และแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญนั้น แน่นอนว่าทั้งสองช่องทางสามารถสร้างรายได้และกำไรได้เหมือนกัน ซึ่งอสังหาฯ นั้นเปรียบเสมือนปลาใหญ่ที่ต้องใช้เงินลงทุน เวลา กลุ่มลูกค้า และต้องดูทิศทางของตลาดในแต่ละช่วงเวลา แต่เมื่อขายได้ก็สามารถสร้างผลกำไรได้มาก

 

ในขณะที่แฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญนั้น มีการลงทุนด้วยต้นทุนที่น้อยกว่า ใช้เวลา กำลังคน และการทำการตลาดแบบปลีกย่อยได้ง่าย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีอยู่ทั่วไปได้ทันที ทำให้เห็นผลตอบแทนได้ในระยะเวลาอันสั้น ที่สำคัญ แม้แฟรนไชส์ตู้กดกาแฟอาจดูเหมือนเป็น ปลาเล็ก แต่ก็เป็น ปลาไว ที่แม้แต่ปลาใหญ่ก็อาจแพ้ได้ โดยเฉพาะในด้านการตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเกิดขึ้นใหม่และปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา และหากลงทุนกับตู้กดกาแฟมากกว่า 1 ตู้ ก็จะยิ่งสามารถสร้างรายได้และกำไรที่มากขึ้นได้เช่นกัน

 

สนใจลงทุนแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
https://www.masterfranchise24hrscoffee.com/
โทร: 062-429-4956, 080-536-9423

Line ID: @24hrscoffee

 

บทความนี้เขียนโดย : https://www.masterfranchise24hrscoffee.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้